ดอกเหมย

 
มีความหมายมงคลถึง ความชื่นบาน ความมีโชค ความยิ่งใหญ่ และอายุยืนยาวกับความอ่อนเยาว์ที่ยืนยง
...ถือเป็นหนึ่งในสามเกลอแห่งฤดูกาลอันหนาวเย็น คือ ไผ่ หลิว และเหมยหรือดอกบ๊วยนั่นเองค่ะ ✨
 
? กวีจีนเปรียบความงามของดอกเหมยว่ามีกลีบดอกขาวประดุจหิมะ ก้านเขียวเหมือนสีหยก ได้รับสมญาว่า "ยอดแห่งความหอมของมวลดอกไม้"
 
โดยเฉพาะในฤดูหนาวที่ดอกไม้ชนิดอื่นจะร่วงโรยและเหี่ยวเฉา มีเพียงดอกเหมยเท่านั้นที่คงความงามและความสดชื่นอยู่จนถึงต้นฤดูใบไม้ผลิ
 
ดังนั้นดอกเหมยจึงเป็นสัญลักษณ์แห่งการมาของฤดูใบไม้ผลิด้วย รวมถึงเป็นสัญลักษณ์แห่งตรุษจีนและสัญลักษณ์แห่งความสุข
 
 
ลักษณะขอฃดอกเหมย
           ดอกเหมยเป็นดอกไม้ของจีนที่ค่อนข้างจะคุ้นหูคนไทยอีกชนิดหนึ่ง แต่เห็นจะมีน้อยคนเต็มทีที่จะเคยเห็นดอกเหมย คนจีนในเมืองไทยก็ไม่ค่อยจะได้เห็นดอกเหมยกันกี่คนนัก เพราะในเมืองไทยไม่มี แต่ถึงกระนั้นเราก็มักจะพูดถึงสาวจีนว่างามเหมือนดอกเหมย ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าเหมยงามอย่างไร เรารู้แต่กิตติศัพท์ว่าดอกไม้ ที่เรียกว่าเหมยนั้นงามนัก
 
         ดอกเหมยมิใช่จะมีความงดงามอย่างเดียว หากมีคุณลักษณะอันสูงที่มักจะนำเอามาเป็นตัวอย่างแก่คนได้ด้วย ลักษณะของต้นเหมยเป็นอย่างไร เห็นจะต้องพึ่งคำอธิบายของ “เนียน” เพราะท่านผู้นี้เคยอยู่ในเมืองจีน จึงอธิบายได้ละเอียดดีมาก
 
        “ต้นบ๊วย (อ่านตามสำเนียงภาษาแต้จิ๋ว) หรือเหมย (อ่านตามสำเนียงภาษากลาง) เป็นต้นไม้ผล ขนาดไม่ใหญ่ชนิดหนึ่ง ซึ่งมีใบเป็นรูปมนๆรีๆ ร่วงในฤดูใบไม้ร่วงและมีดอกแย้มบานในระหว่างปลายฤดูหนาวติดต่อกับต้นฤดูใบไม้ผลิ ขณะที่อากาศกำลังหนาวจัด และต้นไม้อื่นๆ ยังไม่ผลิดอกออกใบเลย ดอกเหมยชนิดนี้มีสีขาวแกมเขียวน้อยๆ เรียกว่า ชี้งเอ้อเหมย Plum flower ดอกเหมยที่มีสีชนิดนี้ จัดว่าเป็นดอกเหมยที่มีสีที่ถูกแบบคือเป็นสีที่นิยมกันโดยทั่วไป ยังมีต้นเหมยอีกชนิดหนึ่งที่มีดอกเป็นสีแดงชมพูเข้ม ดอกเหมยที่มีสีนี้งามสู้ดอกเหมยที่มีสีขาวดังกล่าวแล้วนั้นไม่ได้ จึงไม่จัดว่าเป็นดอกเหมยที่มีสีที่ถูกแบบ หรือสีที่นิยมกันสำหรับดอกเหมย ส่วนต้นเหมยชนิดที่มีดอกเป็นสีเหลืองประดุจสีขี้ผึ้ง หรือที่เรียกว่าหล้าเหมยนั้น ไม่จัดเข้าในจำพวกต้นเหมย เรียกว่า ต้น¬หนาน ถึงแม้คนโดยมากจะเข้าใจกันว่าเป็นต้นเหมยก็ดี เพราะฉะนั้น ดอกเหมยที่จะกล่าวถึงในที่นี้ จึงขอกล่าวถึงแต่ดอกเหมยชนิดที่มีสีขาว และแย้มบานในฤดูหนาว ต้นฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งเป็นดอกเหมยที่ได้รับรองกันในวงจินตกวีทั้งหลายว่าเป็นดอกเหมยที่เกิดจากพันธุ์แท้
 
            ลักษณะหรือรูปร่างของดอกเหมยเป็นดังนี้คือ ดอกหนึ่ง มีกลบมนๆ สีขาวโดยรอบ มีเกสรสีเหลืองอ่อนกระจายอยู่ตรงใจกลาง ดอกเหล่านี้ติดอยู่ประปรายตามกิ่งซึ่งปราศจากใบ ความบริสุทธิ์สดชื่นสวยงามที่มีอยู่ในรูปร่างลักษณะอันเรียบๆ แต่เป็นระเบียบนี้งามยิ่งนัก…อันกลิ่นหอมของดอกเหมยนี้ มีลักษณะค่อนข้างประหลาดพิสดารมาก กล่าวคือมีกลิ่นหอมรวยๆ รื่นๆ คล้ายกับเราได้กลิ่นดอกไม้ เมื่อเรายืนอยู่ทางปลายลม เราไม่รู้ว่ากลิ่นหอมนั้นแอบแฝงอยู่ที่ไหน แต่ในเวลาเดียวกัน เราก็รู้ได้ว่ากลิ่นหอมนี้กำลังมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง ถ้าเราลองเอาจมูกไปดมที่ดอกอย่างใกล้ชิด เพื่อจะสูดเอากลิ่นอันหอมหวนนั้นเข้าไปให้เต็มปอด หรือเพื่อที่จะชื่นใจเต็มที่ สิ่งที่เราสูดเข้าไปก็คืออากาศเราดีๆ นี่เอง ไม่มีกลิ่นหอมอะไรสักนิด แต่ทุกครั้งที่เราแง้มบานหน้าต่างหรือเปิดประตูออกไป เราจะรู้สึกได้ทันทีว่าดอกเหมยในสวน หรือในสนามเราได้กำลังบานแล้ว และขณะที่เรากำลังเดินอยู่ในกลางแจ้ง อากาศรอบๆ ตัวเราจะมีกลิ่นหอมหวนอวนอบ ไปด้วยกลิ่นหอมอันประหลาดพิสดารนี้ ทั้งๆ ที่เรายังไม่ทันจะได้มองเห็นต้นของดอกเหมยเลยแม้แต่ต้นเดียว พูดง่ายๆ ก็คือกลิ่นของดอกเหมยไม่ได้อยู่ที่ในตัวของดอกเหมย แต่อยู่ในอากาศรอบๆ ตัวของดอกเหมยนั่นเอง เพราะฉะนั้นดอกเหมยจึงเป็นดอกไม้ชนิดที่เราทุกคน เพียงแต่ได้ยืนชมดมกลิ่นอยู่ห่างๆ อันการจะอาจเอื้อมไปเด็ดมาดมเล่นนั้น นับว่าเป็นการกระทำที่เปล่าประโยชน์ทีเดียวฯ
 
            อันกลิ่นหอมของดอกเหมยนั้นเล่าก็เป็นลักษณะ (character) อันหนึ่งของสุภาพชนเหมือนกัน คือสุภาพชนจะต้องเป็นผู้ที่มีธรรมจรรยาและความรู้อันสูงคล้ายดอกเหมยที่มีกลิ่นหอมอันพิสดารฉะนั้น ทั้งนี้เพื่อจะให้ผู้ที่อยู่ข้างเคียงได้แต่เพียงนิยมนับถืออยู่ห่างๆ มิอาจมาลวนลาม หรือกระทำให้เสื่อมเสียได้ ในปัจจุบันนี้ดอกเหมยเป็นดอกไม้ที่รัฐบาลและประชาชนชาวจีนยกย่องให้เป็นกว๋อฮว้า หรือดอกไม้ประจำชาติจีน”
 
Submit to FacebookSubmit to Google PlusSubmit to TwitterShare with friendsPrint this page

Facebook Like